ประวัติ ของ อุดม แต้พานิช

อุดม แต้พานิชเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2511 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรของคุณแม่ทองสุข อารีล้น กับคุณพ่อสมจิต แต้พานิช ครอบครัวมีเชื้อสายจีน มีพี่น้อง 3 คน เป็นลูกคนกลาง[2] สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนวัดศาลาลอย เทศบาล 2 (ชื่อปัจจุบัน : โรงเรียนเทศบาล 2 วิภัชศึกษา)​ จังหวัดสุรินทร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ เคยศึกษาที่แผนกวิชาพาณิชย์ศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง แต่ไม่สำเร็จ อุดมเริ่มงานแรกโดยการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่นิตยสารชัยพฤกษ์การ์ตูน ของไทยวัฒนาพานิช โดยใช้นามปากกาว่า ‘Note Namun’ (โน้ต หน้ามึน) ได้ค่าวาด 150 บาทต่อการ์ตูน 2 ช่อง[3] และเมื่อได้อ่านนิตยสาร ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ และอยากร่วมงานด้วย จนได้เข้าไปสมัครเป็นนักแสดงละครของศิษย์สะดือ ความรักของมาลัยในห้องไอซียู เป็นละครเรื่องแรกที่เขาเล่น รับบทเป็นคนแก่ในโรงพยาบาล จบจากละครก็ก้าวเข้าสู่ถนนหนังสือ ในตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของนิตยสารไปยาลใหญ่ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่าง ๆ ในไปยาลใหญ่[4][5][6]

เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วนั้น นิตยสารไปยาลใหญ่จากสำนักพิมพ์ "สำนักศิษย์สะดือ" ถือว่าเป็นนิตยสารที่ฉีกแนวออกมาจากนิตยสารอื่นๆบนแผง ได้รับความนิยมและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก ทั้งจากนักอ่านและผู้คนในแวดวงต่าง ๆ ที่ไปยาลใหญ่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตอุดมเพราะสังคมในไปยาลใหญ่ล้วนเป็นนักอ่านตัวยงและมีอิทธิพลต่ออุดม นอกจากนั้นเขายังค้นพบความสามารถในการเขียนหนังสือ เมื่ออุดมอ่านหนังสือมาก ๆ จึงเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเขียนหนังสือบ้าง ต่อมาครั้งหนึ่งในชีวิตกับแตงโมปั่น งานเขียนเรื่องแรกของเขาก็แจ้งเกิดในสนามที่ไปยาลใหญ่นั่นเอง หลังจากที่งานได้ตีพิมพ์ อุดม เริ่มรับผิดชอบคอลัมน์ต่างๆ ในไปยาลใหญ่ โดยใช้นามปากกาว่า "โน้ตหน้ามึน หลานเจ๊นี้ขายผลไม้" ควบคู่กับตำแหน่งฝ่ายศิลป์ของหนังสือ เขาเป็นคนเขียนคอลัมน์ ‘สารภีมีดีให้’ รวมถึงเกมส์กวน ๆ ในคอลัมน์นั้น ก่อนที่นิตยสารไปยาลใหญ่จะปิดตัวเองลงในเวลาต่อมา[7] พูดกันถึงเดี่ยว3หากอุแม่งอยากเล่าทำไมมึงไม่อยากเบียอยากเบียอยากวายอยากวายด้วยไออุแม่ง

อุดมพาความสามารถเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงโดยเริ่มจากเป็นตัวประกอบในรายการวิก 07 ของเจเอสแอล และเล่นเกมส์ในรายการจุดเดือด จนทางผู้ใหญ่ในเจเอสแอลประทับใจลีลาจึงชักชวนมาร่วมงานในรายการ ยุทธการขยับเหงือก ซึ่งเป็นรายการ Comedian Show ที่มีความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของช่อง 5 ในยุคนั้น จึงทำให้อุดมแจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในชื่อ เสนาฯ โน้ต และต่อมาก็ได้แสดงเป็นตัวปริศนาในภาพ VTR กับศุภกร อุดมชัย หรือ "หมี ปลื้ม" ที่ใช้ชื่อว่า "ปริศนา อ้วน-ผอม" ในรายการชิงร้อยชิงล้าน ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ 17 มกราคม 2533 – 29 มกราคม 2535 ทางช่อง 7 หลังจากความสำเร็จในครั้งแรก อุดม แต้พานิช ได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากรายการยุทธการขยับเหงือก แล้วหันไปจัดเดี่ยวไมโครโฟน โดยเดี่ยวไมโครโฟนครั้งแรก เกิดขึ้นหลังจากอุดมร่วมเป็นพิธีกรของรายการยุทธการขยับเหงือกได้ประมาณ 4 ปี อุดมเริ่มทำเดี่ยวไมโครโฟนประมาณ 2 ปี ซึ่งมีเงินทุนอยู่ 4 แสนบาท เปิดแสดง 3 รอบ เปิดการแสดงเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เวลาบ่าย 2 โมง แสดงที่หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผลตอบรับออกมาดี[8]

นอกจากจะเป็นนักแสดงตลกและนักเขียนแล้ว อุดม แต้พานิช ยังมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง กล่อง (2541) กำกับโดยท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล โดยอุดมรับบทเป็นพระเอกที่ได้รับค่าตัวแพงที่สุดในประเทศไทย[9] ดาราคนโปรดของอุดมคือ บรู๊ซ ลี, เฉินหลง, โจวชิงฉือ ส่วนคอมมิเดี้ยนที่เขาชื่นชมคือ เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ และ โรแวน แอตคินสัน หรือ ‘มิสเตอร์บีน’

ปี 2562 มีผลงานเพลงในนามวง ดีทีเคบอยแบนด์ (DTK BOY BAND) เป็นการรวมวงเฉพาะกิจกับก้อง ห้วยไร่ และสิงโต นำโชค มีเพลงแรกคือ "ลองรัก" และเพลงต่อมา "ลองรวย"[10]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อุดม แต้พานิช http://www.adaymagazine.com/interviews/dialogue-16 http://nutn.diaryis.com/2006/07/31 http://www.ellementhailand.com/entertainment/ http://www.imdb.com/name/nm2322647/ http://www.naiin.com/product/detail/1094/Domcument... http://news.sanook.com/1182199/ http://www.se-ed.com/eShop/Products/Detail.aspx?No... http://www.thaifilmdb.com/th/pp00589/ http://www.thaiticketmajor.com/artist/nos-udom-th.... http://www.thaiticketmajor.com/variety/ent/3530/